ศวท : ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (LAS: Liberal Arts, Science and Technology) https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science <p><strong>วารสาร ศวท</strong><strong>: ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี</strong></p> <p><strong>LAS: Liberal Arts, Science and Technology Journal</strong></p> <p><strong>เป้าหมายและขอบเขตการรับตีพิมพ์</strong></p> <p>รับตีพิมพ์ผลงานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษประกอบด้วย บทความวิจัย (Research Article) บทความปริทัศน์ (Review Article) และรายงานฉบับย่อ (Short communication) เพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ผลงานวิชาการของคณาจารย์ นักวิชาการ บุคลากร ทั้งภายในและภายนอกคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้เรื่องที่ส่งมาตีพิมพ์ในวารสารต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ในระหว่างพิจารณาตีพิมพ์ ในวารสารหรือหนังสืออื่น การเขียนบทความต้นฉบับ (Manuscript) ต้องตรงตามรูปแบบที่วารสารกำหนดโดยมีหัวข้อรับตีพิมพ์ที่กว้างและหลากหลายสาขาประกอบด้วย</p> <p>The Journal attracts papers from a broad spectrum of the scientific community. The LAS publishing original research from across all areas of the Social Sciences as well as Science and Technology.</p> <p><strong>ด้านสังคมศาสตร์ (Social Sciences)</strong></p> <p>1. บริหารธุรกิจ การจัดการ และการบัญชี (Business, Management and Accounting) ได้แก่<br /> 1.1 บริหารธุรกิจทั่วไป การจัดการ และการบัญชี (General Business, Management and Accounting)<br /> 1.2 การบัญชี (Accounting)<br /> 1.3 บริหารธุรกิจ และการจัดการระหว่างประเทศ (Business and International Management) <br /> 1.4 การตลาด (Marketing)<br /> 1.5 พฤติกรรมองค์กรและการจัดการทรัพยากรมนุษย์ (Organizational Behavior and Human Resource Management) <br /> 1.6 กลยุทธ์และการจัดการ (Strategy and Management) <br /> 1.7 อุตสาหกรรมสัมพันธ์ (Industrial Relations) <br /> 1.8 การจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management) <br /> 1.9 การจัดการการผลิตและบริหารอุตสาหกรรม (Operation Management and Industrial Management)<br />2. เศรษฐศาสตร์ เศรษฐมิติ และการเงิน (Economics, Econometrics and Finance) ได้แก่<br /> 2.1 เศรษฐศาสตร์ทั่วไป เศรษฐมิติ และการเงิน (General Economics, Econometrics and Finance)<br /> 2.2 เศรษฐศาสตร์และเศรษฐมิติ (Economics and Econometrics) <br /> 2.3 การเงิน (Finance) <br />3. สังคมศาสตร์ (Social Sciences) ได้แก่ <br /> 3.1 กฎหมาย (Law)<br /> 3.2 สังคมวิทยา (Sociology)<br /> 3.3 รัฐศาสตร์ (Political Science) <br /> 3.4 ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (International Relations) <br /> 3.5 รัฐประศาสนศาสตร์ หรือบริหารรัฐกิจ หรือการบริหารงานภาครัฐ (Public Administration)</p> <p><strong>ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ (Science and Technology)</strong></p> <p>1. วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Biological Science) ได้แก่ เกษตรศาสตร์ (Agricultural Science) สิ่งแวดล้อม (Environmental Science) ชีววิทยา (Biology) พันธุศาสตร์ (Genetic) จุลชีววิทยา (Microbiology) ชีวเคมี (Biochemistry) เทคโนโลยีการอาหาร (Food Science and Technology) พืชศาสตร์ (Plant Science) สัตวศาสตร์ (Animal Science) และเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว (Post-Harvest)</p> <p>2. วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Science) ได้แก่ เคมี (Chemistry) ฟิสิกส์ (Physic) คณิตศาสตร์ (Mathematics) วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) และวัสดุศาสตร์ (Materials Science)</p> <p>3. วิทยาศาสตร์สุขภาพ (Health Sciences) ได้แก่ การสร้างเสริมสุขภาพ (Health Promotion) อนามัยสิ่งแวดล้อม (Environmental Health) อาชีวอนามัยและความปลอดภัย และวิทยาศาสตร์สุขภาพสาขาอื่นๆ</p> <p><strong>กำหนดตีพิมพ์</strong></p> <p>-ปีละ 3 ฉบับ (ฉบับละ 6 เรื่องหรือมากกว่า)</p> <p>ฉบับที่ 1 มกราคม-เมษายน</p> <p>ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม</p> <p>ฉบับที่ 3 กันยายน-ธันวาคม</p> <p><strong>การประเมินบทความต้นฉบับ </strong></p> <p>ต้นฉบับจะต้องผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer review) ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกสังกัดของเจ้าของบทความ และจากหลากหลายสถาบัน จำนวน 3 ท่านต่อบทความ โดยผู้ทรงคุณวุฒิไม่ทราบชื่อผู้นิพนธ์และผู้นิพนธ์ไม่ทราบชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ (Double-blind peer review) กองบรรณาธิการจะเป็นผู้สรรหาเพื่อรับการประเมิน กรณีมีการแก้ไขกองบรรณาธิการจะส่งผลการอ่านประเมินคืนผู้เขียนให้แก้ไขหรือเพิ่มเติม หรือแล้วแต่กรณี</p> <p><strong>นโยบายด้านค่าธรรมเนียม </strong></p> <p>ไม่มีค่าใช้จ่ายในการส่งบทความเพื่อตีพิมพ์กับวารสาร</p> <p><strong>การส่งต้นฉบับ</strong></p> <p>จัดส่งต้นฉบับที่พิมพ์ตามข้อกำหนดของรูปแบบวารสารที่เว็บไซต์ https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/ (เมนู About ไปที่การส่งบทความ)</p> th-TH Jinnaput.c@ku.th (จิณณพัต ชื่นชมน้อย) Jinnaput.c@ku.th (จิณณพัต ชื่นชมน้อย) Tue, 22 Apr 2025 18:57:56 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 ความสัมพันธ์ระหว่างค่านิยมสุขภาพช่องปาก พฤติกรรมการดูแลช่องปากของผู้ปกครองและสถานะสุขภาพช่องปากของบุตรปฐมวัยในโรงเรียนประถมศึกษาเทศบาลนครตรัง https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/3440 <p>การวิจัยเชิงสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างค่านิยมสุขภาพช่องปากและพฤติกรรมการดูแลช่องปากของผู้ปกครองกับสถานะสุขภาพช่องปากของบุตร ในโรงเรียนประถมศึกษาที่เป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในจังหวัดตรัง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยผู้ปกครองเด็กเล็กจำนวนทั้งหมด 145 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ให้ กลุ่มตัวอย่างตอบเอง การวิเคราะห์ข้อมูลทำโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและการทดสอบ Chi-square ผลการศึกษา ร้อยละ 71.0 ของกลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาของเด็ก ประมาณครึ่งหนึ่งมีความเห็นว่าสถานะสุขภาพช่องปากของตนเองนั้นอยู่ในระดับ “พอใช้” และหนึ่งในสี่เห็นว่าอยู่ในระดับ “ดี” และร้อยละเท่ากันนี้มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานะสุขภาพช่องปากของบุตรของตน ร้อยละ 60 ของผู้ปกครองระบุว่าบุตรของตนเคยมีปัญหาฟันผุและปวดฟัน พบว่า ผู้ปกครองหนึ่งในสี่มีค่านิยมสุขภาพช่องปากในระดับ “สูง” ผลการตรวจสุขภาพ ช่องปากเด็ก ณ วันที่สัมภาษณ์ผู้ปกครองโดยรวบรวมข้อมูลจากการตรวจโดยทันตานามัยพบว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของเด็กมีสุขภาพช่องปากในระดับ “ดี” ที่เหลือจะมีปัญหาที่ต้องดูแล พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างค่านิยมสุขภาพช่องปากกับตัวแปรด้านเพศ อายุ และพฤติกรรมการปฏิบัติในการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้ปกครองที่เกี่ยวกับระยะเวลาการแปรงฟัน การบ้วนปากหลังรับประทานอาหาร การไปขูดหินปูนอย่างสม่ำเสมอ การไปรับบริการที่คลินิกทันตแพทย์ การหาความรู้เกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก และสถานสุขภาพช่องปากของเด็กจากการตรวจ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นและความสำคัญของการพัฒนาความรอบรู้สุขภาพช่องปากของเด็กวัยก่อนเรียนให้กับพ่อ-แม่/ผู้ปกครองของเด็ก ความรอบรู้สุขภาพช่องปากและพฤติกรรมการดูแลช่องปากของพ่อ-แม่/ผู้ปกครองจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำนายพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากที่พ่อ-แม่/ผู้ปกครองจะให้กับเด็ก และสถานะสุขภาพช่องปากของเด็ก เทศบาลนครตรังและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ศูนย์ดูแลเด็กเล็กหรือโรงเรียนอนุบาล ควรจะได้หาวิธีการที่จะพัฒนาความรอบรู้ทันตสุขภาพให้กับพ่อ-แม่/ผู้ปกครอง/ผู้ดูแลเด็กเล็กเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีของเด็ก</p> ประภาเพ็ญ สุวรรณ, ศิวพร สุนทรีวงศ์, หทัยกาญจน์ ยางศรี, สุรีย์ จันทรโมลี, ณฐา เมธาบุษยาธร Copyright (c) 2025 ศวท : ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (LAS: Liberal Arts, Science and Technology) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/3440 Tue, 22 Apr 2025 00:00:00 +0700 ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระของข้าวไรซ์เบอร์รีที่หมักกับเห็ดแครง https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/3227 <p>งานวิจัยนี้ศึกษาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพของเห็ดแครง <em>Schizophyllum commune</em> ที่เจริญบนข้าวไรซ์เบอร์รีโดยกระบวนการหมักแบบอาหารแข็ง โดยศึกษาผลของการเติมกลูโคสและสารสกัดจากยีสต์ เมื่อเห็ดแครงเจริญบนข้าวไรซ์เบอร์รีเป็นเวลา 14 วัน จะถูกนำมาอบแห้งและสกัดหยาบด้วยตัวทำละลาย 2 ชนิด คือ เอทิลอะซิเทตและเมทานอล พบว่าสารสกัดเมทานอลมีปริมาณร้อยละของสารสกัดหยาบมากกว่าเอทิลอะซิเทต การลงเชื้อและการเติมกลูโคสและสารสกัดจากยีสต์ไม่มีผลต่อปริมาณร้อยละของสารสกัดหยาบ อย่างไรก็ตามการลงเชื้อ การเติมกลูโคสและสารสกัดจากยีสต์ช่วยเพิ่มปริมาณสารประกอบฟีนอลิกในสารสกัดได้ แต่ชนิดของตัวทำละลายไม่มีผลต่อปริมาณสารประกอบฟีนอลิก นอกจากนี้เมื่อศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH radical scavenging assay พบว่าค่า IC<sub>50</sub> ในทุกการทดลองไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ</p> อุรารักษ์ ร่มรื่น, สุดาวรรณ วิเศษสิงห์ , กษิดิศ เด็ดขาด Copyright (c) 2025 ศวท : ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (LAS: Liberal Arts, Science and Technology) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/3227 Tue, 22 Apr 2025 00:00:00 +0700 พฤติกรรมการใช้บริการธนาคารออนไลน์และปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการใช้บริการธนาคารออนไลน์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/3199 <p>การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้บริการธนาคารออนไลน์ และปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการใช้บริการธนาคารออนไลน์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 395 ตัวอย่าง ซึ่งได้มากจากการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิแบ่งเป็นสัดส่วน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง กำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 4 กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ รายได้เฉลี่ยต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน และอาศัยอยู่ในหอพักนอกมหาวิทยาลัย ในด้านพฤติกรรมการใช้บริการพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ใช้บริการธนาคารไทยพาณิชย์ ช่วงเวลาที่ใช้บริการมากที่สุดคือช่วงเวลาระหว่าง 12.00-18.00 น. โดยจำนวนเงินที่ใช้บริการในแต่ละครั้งเฉลี่ย 100-500 บาทต่อครั้ง ในส่วนของปัจจัยทางการตลาดที่ส่งผลต่อการใช้บริการธนาคารออนไลน์ของกลุ่มตัวอย่างพบว่า ปัจจัยด้านช่องทางการจำหน่ายเป็นปัจจัยที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย 4.65 รองลงมาคือปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์มีค่าเฉลี่ย 4.57 ปัจจัยด้านราคามีค่าเฉลี่ย 4.47 และปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาดมีค่าเฉลี่ย 4.02 ตามลำดับ</p> กฤษฎา ดิเรกวัฒนะ, จุฑามาศ เสาร์แก้ว Copyright (c) 2025 ศวท : ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (LAS: Liberal Arts, Science and Technology) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/3199 Tue, 22 Apr 2025 00:00:00 +0700 ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการคาเฟ่ในสวน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/4089 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาข้อมูลลักษณะส่วนบุคคลของผู้บริโภคที่เลือกใช้บริการคาเฟ่ในสวน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม (2) ศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการคาเฟ่ในสวน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และ (3) ศึกษาการตัดสินใจของผู้บริโภคที่เลือกใช้บริการคาเฟ่ในสวน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ ผู้มาใช้บริการร้านคาเฟ่ในสวนในเขต อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยโดยวิธีการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม (Questionnaire) ผลวิจัยพบว่า (1) ข้อมูลลักษณะส่วนบุคคลของผู้บริโภคที่เลือกใช้บริการคาเฟ่ในสวน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุ 21-30 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี อาชีพนักเรียน/นักศึกษา โดยมีรายได้ 10,001-15,000 บาท และภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม (2) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการคาเฟ่ในสวน โดยมีค่าเฉลี่ย 4.36 อยู่ในระดับมาก (3) การตัดสินใจของผู้บริโภคเลือกใช้บริการคาเฟ่ในสวน โดยมีค่าเฉลี่ย 4.29 อยู่ในระดับมาก</p> ปลื้มกมล จันทร์ศรี, พัชรินทร์ เดิมประโคน, วรรัตน์ ชาเมืองกุล, สรางค์ พรนภาลัย, ภัทรดนัย โคตรศรี Copyright (c) 2025 ศวท : ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (LAS: Liberal Arts, Science and Technology) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/4089 Tue, 22 Apr 2025 00:00:00 +0700 ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงจูงใจของกลุ่มเยาวชน Gen Z ในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ในเขตพื้นที่เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/4088 <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเยาวชน Gen Z ในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตพื้นที่เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี 2) ศึกษาแรงจูงใจของกลุ่มเยาวชน Gen Z ในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตพื้นที่เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ เยาวชน Gen Z จำนวน 400 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) การตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตพื้นที่เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ของกลุ่มเยาวชนGen Z โดยค่าเฉลี่ยหลังการเก็บข้อมูล แรงจูงใจผลักดัน (Push Factor) เท่ากับ 4.43 อยู่ในระดับมากที่สุด และแรงจูงใจดึงดูด (Pull Factor) เท่ากับ 4.38 อยู่ในระดับมากที่สุด 2) การตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตพื้นที่เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี ของกลุ่มเยาวชนGen Z มีแรงจูงใจผลักดัน (Push Factor) ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจจากการใช้ชีวิตประจำวัน อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.65 และแรงจูงใจดึงดูด (Pull Factor) ด้านชื่อเสียงของสถานที่ท่องเที่ยว อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.50</p> กิตติญาพร มาตร์วังแสง, ธัญชนก อำลอย, ปริศนา แสนทอง, รชต จรดล, บริสุทธ์ แสนคำ Copyright (c) 2025 ศวท : ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (LAS: Liberal Arts, Science and Technology) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/4088 Tue, 22 Apr 2025 00:00:00 +0700 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยทำงาน จังหวัดสุพรรณบุรี https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/4178 <p>การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับพฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยทำงาน 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรอบรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและแรงจูงใจในการป้องกันโรคกับพฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยทำงาน และ 3) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยทำงาน กลุ่มตัวอย่างคือ สตรีวัยทำงานในจังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 394 คน การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ คือ สถิติเชิงบรรยาย ค่าไคสแควร์ ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและสถิติวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1) พฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยทำงานภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x ̅ = 67.25) 2) ปัจจัยส่วนบุคคลด้านสถานภาพสมรสและอายุ ความรอบรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและแรงจูงใจในการป้องกันโรคมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยทำงาน และ 3) ความรอบรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและแรงจูงใจในการป้องกันโรคสามารถอธิบายความผันแปรของพฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยทำงาน ได้ร้อยละ 57 (Adjusted R2 = 0.57, p-value &lt;0.05) แนวทางพัฒนาคือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำผลการวิจัยไปวางแผนการส่งเสริมความรอบรู้เรื่องโรคมะเร็งเต้านมและสร้างแรงจูงใจในการป้องกันโรคมะเร็งเต้านมเพื่อให้สตรีวัยทำงานมีพฤติกรรมการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองซึ่งจะส่งผลให้ความครอบคลุมในการโรคมะเร็งเต้านมด้วยตนเองของสตรีวัยทำงานเพิ่มขึ้น</p> ทิพย์สุคนธ์ ศรีลาธรรม Copyright (c) 2025 ศวท : ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (LAS: Liberal Arts, Science and Technology) https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://li04.tci-thaijo.org/index.php/art-science/article/view/4178 Tue, 22 Apr 2025 00:00:00 +0700