https://li04.tci-thaijo.org/index.php/stjrmutk/issue/feed วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ 2024-08-30T13:22:02+07:00 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ผิวพรรณ ประจันทร์ศรี science.st@mail.rmutk.ac.th Open Journal Systems <p><strong>วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ </strong></p> <p>(Journal of Science and Technology Rajamangala University of Technology Krungthep)</p> <p>ISSN 2392-5647 (Print) ISSN xxxx-xxxx (Online)</p> <p>บรรณาธิการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ผิวพรรณ ประจันทน์ศรี</p> <p> </p> <p>วัตถุประสงค์ในการพิมพ์</p> <p>เพื่อเผยแพร่บทความวิชาการและบทความวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สถาปัตยกรรมการออกแบบ เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเกษตร การบูรณาการความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับศาสตร์ต่าง ๆ ที่หลากหลาย รวมถึงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารธุรกิจ หรือการศึกษา อีกทั้งเพื่อเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ บุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน นักวิจัย และนักศึกษา ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย</p> <p> </p> https://li04.tci-thaijo.org/index.php/stjrmutk/article/view/2233 Effective Trifluoroacetic Acid as a Catalyst in Esterification Step for Biodiesel Production 2024-05-17T15:16:49+07:00 โสภิดา ศิริบาล sopida.s@mail.rmutk.ac.th วันเพ็ญ บุญเรือง Wanpen.kantida@gmail.com กนกพร บุญทรง kanokporn.b@mail.rmutk.ac.th ปิยนุช นาคพงศ์ piyanuch.n@mail.rmutk.ac.th <p>งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาเพื่อหาภาวะที่เหมาะสมในการลดปริมาณกรดไขมันอิสระในน้ำมันมะพร้าวที่มีปริมาณกรดไขมันอิสระสูงให้เหลือต่ำกว่า 1 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักด้วยปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชันกับเมทานอลโดยใช้กรดไทรฟลูออโรแอซิติกเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา รวมทั้งได้ทำการศึกษาผลของตัวแปรที่สำคัญ 4 ชนิดที่มีต่อปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ซึ่งตัวแปรเหล่านี้ได้แก่ ปริมาณเมทานอล ปริมาณตัวเร่งปฏิกิริยา อุณหภูมิในการเกิดปฏิกิริยา และเวลาในการเกิดปฏิกิริยา โดยน้ำมันมะพร้าวที่ใช้เป็นสารตั้งต้นมีปริมาณกรดไขมันอิสระเริ่มต้น 17.98 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่ากรดไขมันอิสระในน้ำมันมะพร้าวลดลงเหลือ 0.92 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักภายใต้ภาวะที่เหมาะสม ซึ่งภาวะที่เหมาะสมคือ ปริมาณเมทานอล 60 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร ปริมาณตัวเร่งปฏิกิริยา 0.92 โมลต่อลิตร อุณหภูมิในการเกิดปฏิกิริยา 60 องศาเซลเซียสและเวลาในการเกิดปฏิกิริยา 3 ชั่วโมง โดยตัวแปรชนิดต่างๆ มีผลในเชิงบวกต่อปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน ยกเว้นเมื่อใช้ปริมาณตัวเร่งปฏิกิริยา 1.84 และ 2.76 โมลต่อลิตรและเวลาในการเกิดปฏิกิริยา 4 และ 5 ชั่วโมง</p> 2024-08-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ https://li04.tci-thaijo.org/index.php/stjrmutk/article/view/2117 Development of Herbal Infusion Produced from Wheat Bran and Tangerine Peel 2024-04-25T10:22:08+07:00 กิติศาสตร์ กระบวน kitisart.k@mail.rmutk.ac.th <p>รำข้าวสาลีและเปลือกส้มเขียวหวานเป็นผลพลอยได้หรือวัสดุเหลือทิ้งและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง จึงมีแนวคิดในการนำรำข้าวสาลีและเปลือกส้มเขียวหวานมาพัฒนาเป็นสมุนไพรชงเพื่อสุขภาพ เนื่องจากในปัจจุบันคนไทยให้ความสนใจด้านสุขภาพมากขึ้น งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาอัตราส่วนรำข้าวสาลีต่อเปลือกส้มเขียวหวาน ได้แก่ 100:0, 75:25, 50:50 และ 0:100 โดยน้ำหนัก ที่มีผลต่อคุณภาพของสมุนไพรชงจากรำข้าวสาลีผสมเปลือกส้มเขียวหวาน พบว่าการเพิ่มอัตราส่วนของเปลือกส้มเขียวหวานมีผลทำให้ปริมาณความชื้น a<sub>w</sub> สารประกอบฟีนอลิกและเมลานอยดินของสมุนไพรชง สูงขึ้น โดยสมุนไพรชงที่ผลิตจากรำข้าวสาลีผสมเปลือกส้มเขียว ในอัตราส่วน 25:75 และ 0:100 มีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกและเมลานอยดินสูงสุด อีกทั้งคะแนนความชอบด้านกลิ่น รสชาติและความชอบโดยรวมของสมุนไพรชงจากรำข้าวสาลีอบผสมเปลือกส้มเขียวหวานในอัตราส่วน 25:75 สูงสุด</p> 2024-08-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ https://li04.tci-thaijo.org/index.php/stjrmutk/article/view/2122 The Fabric Types for Sublimation Printing by Inkjet Printers 2024-06-05T13:12:37+07:00 กชณิภา เย็นไธสง 635020900117@mail.rmutk.ac.th สุรวิทย์ นันทการัตน์ surawit.n@mail.rmutk.ac.th <p>การศึกษาชนิดของผ้าที่เหมาะสมกับการพิมพ์ซับลิเมชั่นด้วยเครื่องพิมพ์ระบบพ่นหมึกเพื่อศึกษาชนิดของผ้าที่เหมาะสมในการพิมพ์ซับลิเมชั่นด้วยเครื่องพิมพ์ระบบพ่นหมึก โดยนำผ้ามาทดสอบทั้งหมด 3 ชนิด คือ ผ้าเส้นใยพอลิเอสเตอร์ผสมใยฝ้ายชนิด TC และ CVC และผ้าเส้นใยพอลิเอสเตอร์ผสมเรยอน (TR) ขนาด A4 นำไปพิมพ์แบบจำลองสี ECI2002 400 Patches ด้วยหมึกพิมพ์ซับลิเมชั่น ถ่ายโอนความร้อนด้วยเครื่อง Heat Transfer วัดค่าสี CIEL*a*b* นำไปสร้างขอบเขตสี (Gamut) แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน และส่องขยายด้วยกล้องไมโครสโคปดิจิทัลเพื่อดูการยึดติดหมึกพิมพ์บนเส้นใยผ้า และทดสอบความคงทนของสีต่อการซักและขัดถู</p> <p>ผลการศึกษาพบว่า ผ้าชนิด TR เหมาะสำหรับการพิมพ์ซับลิเมชั่นมากที่สุด เนื่องจากให้ขอบเขตสีกว้างที่สุด ในด้านความคงทนของสีต่อการซัก มีระดับค่าสีเปลี่ยนแปลงจากเดิมเล็กน้อยถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงของสี และในส่วนการตกติดสีบนผ้าขาวชนิดต่างๆ ผ้าชนิด TR มีสีตกติดผ้าขาวบนผ้าฝ้าย ที่ระดับสีตกติดเล็กน้อยถึงไม่มีการตกติดของสี ด้านความคงทนของสีต่อการขัดถู สีตกติดผ้าขาวสภาพแห้ง ผ้าทั้ง 3 ชนิด มีระดับสีตกติดเล็กน้อยถึงไม่มีการตกติดของสี แต่ในการทดสอบสีตกติดผ้าขาวสภาพเปียก มีเฉพาะผ้าชนิด TR มีระดับสีตกติดเล็กน้อยถึงไม่มีการตกติดของสี และผ้าชนิด TR มีการยึดติดของหมึกพิมพ์บนเส้นใยเกือบทั้งหมด</p> 2024-08-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ https://li04.tci-thaijo.org/index.php/stjrmutk/article/view/2136 A Digital Media Production Introducing Tourist Attractions on the Thonburi Side Via Metaverse Combined with 360 Degree Video 2024-04-28T12:57:01+07:00 กชวรรณ ปาละดี 635021600245@mail.rmutk.ac.th วิสิฐ ตั้งสถิตกุล wisit.t@mail.rmutk.ac.th ภัทรวรรธน์ ไกรปิยเศรษฐ์ pattarawat.k@mail.rmutk.ac.th <p> การผลิตสื่อดิจิทัลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรีผ่านจักรวาลนฤมิตร่วมกับวิดีโอ 360 องศา มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสำรวจความต้องการของสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรี 2) เพื่อผลิตสื่อดิจิทัลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรีผ่านจักรวาลนฤมิตร่วมกับวิดีโอ 360 องศา 3) เพื่อศึกษาคุณภาพการผลิตสื่อดิจิทัลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรีผ่านจักรวาลนฤมิตร่วมกับวิดีโอ 360 องศา 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจหลังการใช้งานสื่อดิจิทัลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรีผ่านจักรวาลนฤมิตร่วมกับวิดีโอ 360 องศา วิธีการดำเนินการศึกษาในครั้งนี้ประกอบด้วย 1) สอบถามกลุ่มศึกษาต้องการเรียนรู้สถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรีจำนวน 19 สถานที่และทำการเลือกสถานที่ผลิตสื่อจำนวน 10 สถานที่ 10 อันดับแรกจาก 19 สถานที่ 2) การผลิตสื่อดิจิทัลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรีผ่านจักรวาลนฤมิตร่วมกับวิดีโอ 360 องศา 3) ประเมินคุณภาพสื่อโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน 4) ประเมินความพึงพอใจหลังการใช้งานสื่อดิจิทัลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรีผ่านจักรวาลนฤมิตร่วมกับวิดีโอ 360 องศา กลุ่มศึกษาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ นักเรียนมัธยมปลายแผนการเรียน ไทย - สังคม จากโรงเรียนวัดอินทาราม จำนวน 104 คน โดยใช้วิธีการเลือกกลุ่มศึกษาแบบเจาะจง (Purposive Sampling)</p> <p> ผลการศึกษาพบว่า 1) การสำรวจความต้องการจากกลุ่มศึกษาจำนวน 104 คนโดยกลุ่มศึกษาสนใจ 10 อันดับแรกมีดังนี้ 1.1) วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร 1.2) ตลาดพลู 1.3) วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 1.4) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ 1.5)<strong> </strong>วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร 1.6) อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 1.7<strong>) </strong>เดอะ ล้ง 1919 รีเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น 1.8) วัดพิชยญาติการามวรวิหาร 1.9) วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร 1.10) วัดขุนจันทร์ 2) การผลิตสื่อดิจิทัลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฝั่งธนบุรีผ่านจักรวาลนฤมิตร่วมกับวิดีโอ 360 พบว่าจากการประเมินคุณภาพในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย () เท่ากับ 4.37 ส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.78 และ 3) ผลการประเมินความพึงพอใจ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มาก โดยมีค่าเฉลี่ย () อยู่ที่ 4.24 และส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.72</p> 2024-08-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ https://li04.tci-thaijo.org/index.php/stjrmutk/article/view/1813 Game Development to Promote the Image of the Faculty of Textile Industry and Fashion Design, Rajamangala University of Technology Phra Nakhon in 3D Format on “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” 2024-04-12T12:08:24+07:00 มธุรส เวียงสีมา maturodt@yahoo.com กฤตภ์ เลขมาศ maturod.v@rmutp.ac.th <p>งานวิจัยเรื่อง การพัฒนาเกมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ในรูปแบบ 3D เรื่อง “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ส่งเสริมภาพลักษณ์และพัฒนารูปแบบการแนะแนวการศึกษาของคณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น ในการตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นปริญญาตรี 2) เพื่อพัฒนารูปแบบเกมให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีต่อเกมตามแนวความคิดของ “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” โดยมีรูปแบบเกมเป็น 3D ที่เป็นการจำลองสถานที่จริงของคณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น มีตัวละครในการเดินเรื่องมีการสร้างเงื่อนไขของเหตุการณ์ต่างๆผ่านการนำเสนอตัวละคร (ผู้เล่น) ตัวละครสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ 360 องศา ในเกมจะแสดงถึงห้องต่าง ๆ ภายในคณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น การดำเนินงานวิจัยในครั้งนี้การวิจัยแบ่งวิธีการดำเนินงานได้ 3 ช่วงคือ ช่วงที่ 1 ทำการศึกษาข้อมูลทั่วไปที่เกี่ยวข้อง ช่วงที่ 2 พัฒนาและออกแบบรูปแบบเกม 3D เรื่อง ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME และ ช่วงที่ 3 ทำการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างพร้อมประเมินความพึงพอใจกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย จากการคัดเลือกแบบเจาะจงจํานวน 50 คน และทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ 5 ด้านคือ ด้านผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป ด้านผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการรับรู้ คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น ด้านผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านความพึงพอใจที่มีต่อเกม “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” ด้านผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการพัฒนาเกม “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” และด้านผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประสิทธิผลของการแนะแนวการศึกษาผ่านเกม “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” ผลจากการศึกษาทั้ง 5 ด้านพบว่า การพัฒนาเกม “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” ให้เป็นรูปแบบออนไลน์ในอนาคต กลุ่มตัวอย่างเห็นด้วย จำนวน 50 คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการแนะแนวการศึกษาผ่านเกม “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” จำนวน 47 คน คิดเป็นร้อยละ 94.00 นักเรียนกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีเหตุผลที่เลือกเล่นเกมเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน จำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 92.00 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ไม่รู้จักคณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น จำนวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 86.00 สิ่งที่ควรพัฒนาในเกม“ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” เพื่อให้เกิดการรับรู้ในคณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่นมากขึ้นคืออุปกรณ์ประกอบฉาก จำนวน 38 คน คิดเป็นร้อยละ 76.00 กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจที่มีต่อเกม “ITFD RMUTP HAPPY TOUR GAME” ในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.16 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 0.63 กลุ่มตัวอย่างมีการรับรู้เกี่ยวกับคณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.06 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 0.59 กลุ่มตัวอย่างมีความสนใจที่จะมาสมัครเข้าศึกษาต่อ คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.72 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 0.64</p> 2024-08-30T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ