The การศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี

ผู้แต่ง

  • จิราวรรณ เทพจินดา Mathematics Program, Faculty of Education, Suratthani Rajabhat University, Surat Thani 84100, Thailand
  • ศุภฤกษ์ เกื้อช่วย Mathematics Program, Faculty of Education, Suratthani Rajabhat University, Surat Thani 84100, Thailand
  • ฤกษ์ฤดี นาควิจิตร Mathematics Program, Faculty of Education, Suratthani Rajabhat University, Surat Thani 84100, Thailand
  • สมศิริ พยัคฆรักษ์ Mathematics Program, Faculty of Education, Suratthani Rajabhat University, Surat Thani 84100, Thailand

คำสำคัญ:

กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ, เทคนิค TAI, ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์

บทคัดย่อ

                 การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2   2) เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ   3) ศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเมือง สุราษฎร์ธานี ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 1 ห้องเรียน รวม 42 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 9 แผน แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมของผู้สอน แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แบบบันทึกผลหลังเรียนอนุทิน แบบสัมภาษณ์ผู้เรียน แบบทดสอบท้ายวงจร - ปฏิบัติการที่ 1-4 เป็นแบบอัตนัยแสดงวิธีทำจำนวน 9 ข้อ แบบทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เป็นแบบอัตนัยแสดงวิธีทำจำนวน 5 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI เป็นแบบประมาณค่า 5 ระดับ 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าเฉลี่ยกลุ่มเดียว

ผลการวิจัยพบว่า หลังจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก นักเรียนสามารถบอกสิ่งที่โจทย์กำหนดให้ สิ่งที่โจทย์ต้องการทราบ มีการวางแผน มีการดำเนินการแก้ปัญหา และมีการตรวจคำตอบที่ถูกต้องมากขึ้นและสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

References

กรมวิชาการ. (2546). การแก้ปัญหาคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

กู้เกียรติ คุ้มเมือง. (2559). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยใช้การจัดการ เรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI ประกอบแบบฝึกทักษะ เรื่อง เศษส่วน ของนักศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น [วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

ครรชิต วงศ์เหิม. (2561). การพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 [วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.

ณัฐภรณ์ ศิริธร, มณีญา สุราช และนครชัย ชาญอุไร. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการสอนของครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคาย เขต 2. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 8(2), 162-177. https://so06.tci-thaijo.org/index.php/UDRUAJ/article/view/240623/166659

ศุวินัย ลครชัย. (2560). การพัฒนาความสามารถในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์แนวคิดของ Polya เรื่อง สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 [วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2551). ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: ส.เจริญการพิมพ์.

อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2553). หลักการสอน (ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.

Baroody, Arthur J. (1993). Problem Solving, Reasoning, and Communicating, K-8. Helping Children Think Mathematically. New York : Macmillan .

Kemmis, S., and McTaggart, R. (1988). The Action Research Planner, 3rd ed. Victoria : Deakin University Press.

Kemmis, S., and McTaggart, R. (2005). Participatory Action Research: Communicative Action and the Public Sphere. In N. K. Denzin & Y. S. Lincoln (Eds.), The Sage Hanbook of Qualitative Research (3 ed., pp. 559-603). Thousand Oaks: Sage Publication, Inc.

Krulik, S., and Rudnick, J. A. (1993). Reasoning and Problem – Solving. A Handbook for Elementary School Teachers. Boston: Allyn and Bacon.

Lester, F.K. (1977). Ideas about Problem Solving : A Look at Some Psychological Research. Arithmetic Teacher, 25, 12-15.

Polya, George. (1957). How to solve it. New York: Doubleday & Company.

Slavin, R. E. (1987). Cooperative Learning and the Cooperative School. Educational Leadership, (45)3, 7-13.

Slavin, R. E. (1990). Cooperative learning: Theory, research and practice. New Jersey: Prentice-hall.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-11-26

How to Cite

เทพจินดา จ. ., เกื้อช่วย ศ. ., นาควิจิตร ฤ. ., & พยัคฆรักษ์ ส. . (2024). The การศึกษาความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ แบบร่วมมือเทคนิค TAI เรื่องการแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสอง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี. วารสารวิทยาศาสตร์ปรีดียาธร, 3(2), 40–53. สืบค้น จาก https://li04.tci-thaijo.org/index.php/psj/article/view/2427